โควิดญี่ปุ่น

โควิดญี่ปุ่น

สำหรับการระบาดของโรคโควิดญี่ปุ่นนั้น ในช่วงแรก ๆ นั้น ประเทศญี่ปุ่นได้รับการชื่นชมว่าเป็นประเทศที่สามารถป้องกันการระบาดได้ดี แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2021 ได้ไม่นาน ทางการญี่ปุ่นก็ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในหลายพื้นที่ โดยที่ตัวเลขของผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่อวันนั้นถึงกับขึ้นหลักพันรายกันเลยทีเดียว และทางการญี่ปุ่นได้แบ่งการระบาดของ covid-19 ออกเป็น 2 ระลอก โดยระลอกแรกนั้นมาจาก covid-19 ชนิดอู่ฮั่นที่แพร่หลายในจีนและเอเชียตะวันออก ส่วนระลอกที่สองนั้นมาจากแถบยุโรปโดยหน่วยแพทย์ของประเทศญี่ปุ่นนั้นได้เฝ้าระวังและตรวจพบการระบาดจากนักเดินทางที่ได้เดินทางกลับจากยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่ทำให้เกิดการระบาดหนักจนต้องมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในครั้งแรกเมื่อปลายเดือนมีนาคม 2020

ติด covid-19  หรือยัง สังเกตอาการอย่างไรได้บ้าง

สำหรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนานั้นได้เริ่มต้นขึ้นช่วงปี 2019 และได้แพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้แพร่กระจายเพียงอย่างเดียว ยังมีการกลายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์อังกฤษ สายพันธุ์แอฟริกาใต้ และสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งอาการโควิดแต่ละสายพันธุ์ยังมีระยะแสดงอาการให้เฝ้าระวังแตกต่างกันไปอีกด้วย โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดีย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เริ่มมีการติดเชื้อในไทยนั้นยิ่งต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากมีการแพร่ระบาดที่มีความรวดเร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษหลายเท่า และหากใครที่มีความกังวลว่าตัวเองติดโควิดหรือยังนั้น โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงโดยที่ไม่รู้ตัว และสำหรับผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงก็สามารถสังเกตอาการผิดปกติได้เช่นกัน จะมีอาการอะไรที่เราต้องเฝ้าระวังนอกเหนือจากที่เคยรู้อีกบ้างมาดูกัน

โควิดญี่ปุ่น

  • อาการไข้

สำหรับผู้ที่มีอาการติดเชื้อ covid-19 นั้นจะมีอาการไข้ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการที่พบได้จากเชื้อโควิดหลาย ๆ สายพันธุ์ โดยจะเริ่มมีอาการไข้ขึ้นสูงชัดเจนไปถึง 38.5-39 องศาเซลเซียส ได้ เมื่อเข้าสู่วันที่ 3-4 หลังจากที่ได้รับเชื้อโควิดนี้

  • ไอแห้ง

อาการไอของผู้ป่วย covid-19 นี้จะมีอาการไอแห้ง ๆ ลักษณะการไอที่ไม่มีน้ำลายหรือเสมหะ จะมีความรู้สึกคันคอและระคายคอจนทำให้มีอาการเสียงแหบร่วมด้วยได้ในบางครั้ง เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของอาการโควิดที่พบได้มากรองลงมาจากอาการไข้

  • จมูกไม่ได้กลิ่น และลิ้นไม่รับรส

สำหรับผู้ป่วย covid-19 นั้นจะสูญเสียความสามารถในการดมกลิ่นไปถึง 68% และความสามารถในการรับรสลดลงถึง 71% ซึ่งจะต่างจากโรคไข้ชนิดอื่น ๆ ที่มีอาการเหล่านี้ไม่ถึง 17%

  • หายใจลำบาก

อาการหายใจลำบาก อ่อนเพลียนั้นคือหนึ่งในอาการที่จะคล้ายกับไข้หวัดทั่วไป ในบางครั้งอาจจะมีจังหวะในการหายใจที่เร็วขึ้นอย่างชัดเจน  ซึ่งจะต่างจากการระบาดในครั้งแรก ๆ ที่ผู้ป่วยจะเริ่มหายใจติดขัด หรือรู้สึกมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในช่วงสัปดาห์ที่สอง

  • ตาแดง ผื่นขึ้น

อาการผื่นโควิดนั้นเป็นอาการโควิดล่าสุดที่ถูกพูดถึงมากขึ้น โดยจะมีอาการผื่นแดงคล้ายตาข่าย ผื่นเป็นจุดเลือด ผื่นบวมแดงคล้ายลมพิษ และตุ่มน้ำใส ซึ่งสัมพันธ์กับอาการมีไข้ ไอ จาม และปัญหาเรื่องระบบการหายใจ นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการตาแดงร่วมด้วย

เมื่อติด covid-19  ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร

  • สำหรับผู้ติดเชื้อ covid-19 นั้นจะต้องเตรียมเอกสารที่จะต้องใช้ เช่น บัตรประชาชน ผลตรวจโควิด-19 และ ตรวจโควิด fit to fly แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ของตน กับทางหน่วยงานที่รับเรื่องเพื่อเข้ารับการรักษา โดยการโทร. 1330, 1669, 1668
  • ผู้ติดเชื้อต้องงดออกจากที่พักหรือเดินทางข้ามจังหวัด (หากฝ่าฝืนถือว่าผิดพ.ร.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มาตรา 34)
  • ผู้ติดเชื้อต้องงดใกล้ชิดครอบครัวและผู้อื่น แยกห้องน้ำหากทำได้
  • หากผู้ติดเชื้อมีไข้ให้รับประทานยาพาราเซตามอล และเช็ดตัวเพื่อลดไข้
  • ผู้ติดเชื้อต้องสวมแมสก์ตลอดเวลาและแยกของใช้ส่วนตัวออกจากผู้อื่น

การดูแลตัวเองในขณะที่ยังไม่ได้เตียงผู้ป่วย

  • ผู้ติดเชื้อ covid-19 จะต้องกักตัวเองให้อยู่แต่ในห้อง โดยไม่อยู่ร่วมกับผู้อื่น และหากไม่มีห้องส่วนตัวให้เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทให้มากที่สุด
  • ในระหว่างที่กักตัวอยู่นั้นหากมีความจำเป็นที่จะต้องออกมานอกห้องหรือต้องเข้าใกล้ผู้อื่น ผู้ป่วยควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ไม่กดลิฟต์ด้วยมือโดยตรง ควรใช้ปากกาหรือวัสดุอื่น ๆ เป็นที่กดลิฟต์ และไม่ยืนพิงลิฟต์หรือสัมผัสลิฟต์
  • กรณีที่ผู้ป่วยพักอยู่คอนโดหรือ อพาร์ทเมนท์ หรือที่พักที่มีผู้อื่นร่วมด้วย ให้แจ้งเรื่องการติดเชื้อโควิด-19 กับนิติบุคคล
  • ผู้ป่วยต้องไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น และจะต้องแยกของใช้ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น อุปกรณ์รับประทานอาหาร แก้วน้ำ หากสั่งสินค้า Delivery ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้ง ไม่ควรรับส่งของโดยตรงกับผู้อื่น
  • ผู้ป่วยควรแยกการใช้ห้องน้ำกับผู้อื่น แต่ในกรณีที่แยกไม่ได้ ให้พยายามใช้ห้องน้ำเป็นคนสุดท้าย และล้างห้องน้ำหลังใช้ทุกครั้ง
  • ผู้ป่วยต้องล้างมือด้วยสบู่ น้ำสะอาดและใช้เจลแอลกอฮอล์เป็นประจำ โดยเฉพาะหลังขับถ่าย
  • ผู้ป่วยต้องดูแลตนเองให้แข็งแรง โดยการรับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน ทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง พยายามทำจิตใจให้สบาย เพื่อลดความวิตกกังวล
  • และหากผู้ป่วยมีอาการหนักหรือรุนแรงมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการมีอาการไข้สูง ไอหนักขึ้น มีอาการเหนื่อยหอบ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ให้ติดต่อสายด่วน 1669 , 1668 , หรือโหลดแอปพลิเคชัน EMS 1669 เพื่อกดเรียกรถพยาบาลกรณีฉุกเฉิน

สำหรับการระบาดของโรคไวรัสโคโรน่าหรือ covid-19 นั้น ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดในตอนนี้คือการดูแลป้องกันตนเอง และหากเป็นไปได้ควรเข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งหลายคนอาจมองว่าการฉีดวัคซีนนั้นไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยที่ตัวผู้ติดเชื้อนั้นจะไปอยู่ในกลุ่มผู้ป่วยสีแดง และหากจำนวนผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เตียงลดลง ปัญหาการขาดแคลนเตียงก็จะลดลงเช่นกัน